ไม่ทราบว่าเคยได้ยินกันมาก่อนรึเปล่าเกี่ยวกับสูตร
หัวไชเท้ารักษาฝ้า สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาเรื่องฝ้าและกำลังมองหาวิธี
รักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติอยู่ แนะนำให้ทดลองทำ
ครีมหัวไชเท้ารักษาฝ้ามาทาดูน่ะครับ สามารถทำเองได้ง่ายๆ เพราะส่วนประกอบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการทำ ก็สามารถหาได้ในครัวเรือนบ้านเราอยู่แล้ว และที่สำคัญ ทำให้เราประหยัดเงินได้ ไม่ต้องเสียเงินซื้อครีมลอกฝ้าราคาแพงๆ มาใช้ (ซึ่งไม่รู้ว่าครีมรักษาฝ้าที่ซื้อมาใช้นั้นจะได้ผลรึเปล่า) ก่อนที่จะมาดูสูตร
รักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้า เรามาทำความรู้จักกับเจ้าหัวไชเท้ากันก่อนละกันน่ะครับว่ามันมีความเป็นมาอย่างไร มีคุณสมบัติพิเศษอะไรถึงสามารถช่วย
ลดฝ้าได้
|
หัวผักกาดหรือหัวไชเท้า |
ผักกาดหัว หรือ
หัวไชเท้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Raphanus sativus var. longipinnatus L. เป็นพืชในตระกูล Cruciferae เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ อายุ 1 หรือ 2 ฤดู แต่ส่วนมากจะปลูกเป็นพืชฤดูเดียว
ราก เป็นส่วนที่ทำหน้าที่เก็บสะสมอาหารขยายพองโตออก ด้านข้างอาจมีรากฝอยบ้าง เป็นส่วนที่นำมาบริโภคเป็นอาหาร
ลำต้น สั้นเชื่อมต่อยู่ระหว่างรากกับใบ
ใบ เป็นใบเดี่ยว ใบเรียวยาว ปลายใบมนขอบใบเป็นคลื่นเว้าเข้าหลายหยัก
ดอก ออกเป็นช่อแบบราซีม มีสีขาวหรือสีม่วงติดฝักชนิดผ่าแล่ง
หัวไชเท้ามีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีน โดยทั่วไปแล้วหัวไชเท้านี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายสีไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีแดง สีม่วง สีชมพู และขนาดก็จะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์แยกย่อย (Subspecies) หัวไชเท้า เป็นผักที่หลายๆประเทศนิยมนำมาทำเป็นอาหาร เมนูหัวไชเท้า เช่น แกงจืด แกงส้ม ต้มจับฉ่าย ต้มจืดหัวไชเท้า ขนมหัวผักกาด เป็นต้น
หัวไชเท้ามีประโยชน์อย่างไร
หัวไชเท้า เป็นสมุนไพรที่มีอยู่ในตำรายาจีนโบราณ ตำราจีนกล่าวว่าไชเท้ามีสรรพคุณในการกระจายสิ่งหมักหมมในร่างกาย ถือว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็น แต่มีรสเผ็ดร้อน ซึ่งถือว่าผักชนิดนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานของปอด ช่วยชำระล้างผนังกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่ ช่วยดับกระหายคลายร้อน แก้อาการไอเรื้อรัง มีเสมหะมาก อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ซึ่งหากรับประทานหัวไชเท้าไปสักระยะหนึ่งแล้วอาการต่างๆเหล่านี้ก็จะบรรเทาอาการให้ดีขึ้น เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาเย็น จึงไม่ควรที่จะรับประทานหัวไชเท้ากับยาหรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนอย่างโสมหรือตังกุย เพราะมันอาจจะไปสะเทินฤทธิ์กันเอง ทำให้โสมหรือตังกุยออกฤทธิ์ไม่ดีเท่าที่ควร แต่อย่าเข้าใจผิดไปว่าหัวไชเท้านี้มันจะไปทำลายฤทธิ์ของยาหรือสมุนไพรอื่นๆทั้งหมด และการรับประทานหัวไชเท้านั้นจะรับประทานสุกหรือดิบก็ได้ แต่การรับประทานแบบดิบๆนั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า ยังไม่หมดเท่านี้กับประโยชน์ของหัวผักกาด มาดูกันต่อตามข้อมูลด้านล่างเลยครับ
|
ต้นหัวไชเท้า |
1. หัวไชเท้า เป็นผักที่หลายๆประเทศนิยมนำมาทำเป็นอาหาร เมนูหัวไชเท้า เช่น แกงจืด แกงส้ม ต้มจับฉ่าย ต้มจืดหัวไชเท้า ขนมหัวผักกาด สลัดหัวผักกาด ยำหัวผักกาด เป็นต้น
2. หัวไชเท้าประโยชน์ของหัวผักกาด สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทองเชื่อว่ามีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวลเหมือนคนหนุ่มสาว
3. เป็นผักสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่เป็นหวัด มีอาการไอ คออักเสบเรื้อรังและมีเสียงแหบแห้ง ด้วยการนำหัวไชเท้าสดมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในขวดแก้ว หลังจากนั้นโรคน้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืนแล้วรินน้ำดื่มเป็นประจำ
4. คั้นเป็นน้ำดื่มดับกระหาย ด้วยการนำหัวไชเท้าสดมาคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำขิง น้ำตาลทรายขาวพอหวาน แล้วนำมาต้มให้เดือดแล้วจิบบ่อยๆ
5. มีส่วนช่วยในการนอนหลับ
6. มีส่วนช่วยแก้โรคประสาท
7. หัวไชเท้าสรรพคุณ ช่วยลดความดันโลหิต
8. หัวผักกาดมีสารลิกนิน (Lignin) ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสื่อมของเซลล์ และมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
9. หัวไชเท้ามีสารเควอร์เซทิน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคและช่วยต่อต้านมะเร็ง
10. ช่วยระงับอาการหอบ (เมล็ด)
11. ช่วยในการเจริญอาหาร (ใบ,ทั้งต้น)
12. หัวไชเท้าสรรพคุณช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย
13. ช่วยขยายหลอดลมและหลอดเลือด
14. ประโยชน์หัวไชเท้า ช่วยบำรุงโลหิต (ราก)
15. ช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น
16.แก้อาการปวดศีรษะข้างเดียว (ราก)
17. สรรพคุณหัวไชเท้า ช่วยในการขับและละลายเสมหะ
18. แก้อาการไอหอบมีเสมหะมาก (เมล็ด)
19. ช่วยเรียกน้ำลาย (ราก)
20. แก้อาการอาเจียนเป็นเลือด กระอักเลือด (ราก)
21. ช่วยรักษอาการต่อมน้ำนมบวม น้ำนมคั่ง (ใบ,ทั้งต้น)
22. ช่วยในการกระตุ้นน้ำย่อย ช่วยในการย่อยอาหาร
23. สรรพคุณหัวผักกาดขาว ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย (ใบ,ทั้งต้น)
24. ชาวจีนเชื่อว่าหัวผักกาดมีผลต่อการเคลื่อนตัวของพลังซี่ ซึ่งมีผลต่อกระเพาะอาหารและระบบย่อย
25. ใช้เป็นยาระบาย (เมล็ด)
26. ช่วยรักษาอาการท้องร่วง บิด
27. ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
28. ช่วยชำระล้างผนังกระเพาะอาหารและลำไส้
29. ช่วยสมานลำไส้ (ราก)
30. มีส่วนช่วยให้ปัสสาวะใส ไม่ขุ่น
31. ช่วยบำรุงม้าม (ราก)
32. ประโยชน์ของหัวไชเท้าช่วยส่งเสริมการทำงานของตับ จึงช่วยกำจัดพิษและของเสียในร่างกาย
33. แก้อาการผิวหนังเป็นผื่นคันมีน้ำเหลือง ด้วยการใช้ใบสดน้ำมาคั้นเอาน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นผื่นคัน
34. ชาวจีนสมัยก่อนนำหัวผักกาดมาใช้รักษาโรคหัดในเด็ก
35. ในญี่ปุ่นมักนำหัวไชเท้าดิบมาขูดเป็นฝอยลงในซีอิ๊วใช้เป็นน้ำจิ้ม
36. มีการนำมาแปรรูปเป็นหัวไช้โป๊ว ดอกเค็ม ตากแห้งเพื่อรับประทาน
37. ในตำราอาหารญี่ปุ่นแนะนำว่าให้ต้มปลาหมึกตัวสดกับหัวไชเท้า ว่ากันว่าจะช่วยทำให้เนื้อปลาหมึกนุ่มมาก
38. เป็น
สมุนไพรแก้ฝ้า ลดฝ้าให้จางลงได้
หัวไชเท้ารักษาฝ้าได้จริงหรือ
จริงๆ แล้วการ
รักษาฝ้าด้วยสมุนไพรค่อนข้างจะเห็นผลช้าเมื่อเทียบกับการใช้ครีมลอกฝ้าที่ผลิตจากพวกสารเคมี แต่ว่าวิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติจะมีความปลอดภัยมากกว่าเพราะว่าส่วนประกอบที่เรานำมาใช้ทำครีมรักษาฝ้าจะมาจากธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้น การที่จะตอบว่าหัวไชเท้าหรือ
หัวผักกาดรักษาฝ้าได้จริงหรือไม่นั้นก็คงสรุปตายตัวไม่ได้ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สภาพผิวของแต่ละบุคคล บางคนผิวแพ้ง่าย บางคนผิวแห้ง ผิวมัน เป็นต้น อย่างไรก็ตามทางเราได้รวบรวมสูตร
การรักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้าเอาไว้ให้ทุกท่านได้ทดลองทำดู หากลองแล้วได้ผล หรือไม่ได้ผลอย่างไร ก็อย่าลืมนำกลับมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันด้วยน่ะครับ
สูตร
วิธีรักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้าแบบสดๆ สูตรนี้ไม่ต้องทำอะไรเลยใช้หัวผักกาดแบบสดๆ นี่แหละ นำมาล้างให้สะอาด เสร็จแล้วใช้มีดคมๆ ฝานให้เป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปแปะไว้บริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ซักประมาณ 15-20 นาที แล้วค่อยล้างออก จากนั้นซับหน้าให้แห้ง ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ทำแบบนี้ติดต่อกันทุกวันจะช่วยแก้ฝ้าให้จางลงได้ ข้อแนะนำ ก่อนทำควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
สูตร
แก้ฝ้าด้วยหัวไชเท้าแบบที่สองคือ การกินหัวไชเท้า อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยว่าอยากจะกินดิบหรือกินสุก ถ้าจะกินดิบก็ขูดให้เป็นฝอยๆ นำมาทานร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ หรือทำไปทำเป็นกับข้าวประเภทแกงจืด ก็ได้
สูตรรักษาฝ้าด้วยหัวผักกาดแบบที่สามคือ นำหัวไชเท้ามาสับเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียด บีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย จากนั้นปั่นให้เข้ากัน นำมาพอกบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด พยามยามทำให้สม่ำเสมอจะช่วยลดฝ้าให้จางลงได้
สูตร
ครีมแก้ฝ้าหัวไชเท้าแบบที่สี่มีส่วนผสมดังนี้ หัวไชเท้าไม่ต้องปอกเปลือกหั่นชิ้นเล็ก ๆ 2 ช้อนโต๊ะ จมูกข้าวสาลี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีผสมสมุนไพรสดพอกหน้า พอกตัว หัวไชเท้า นำหัวไชเท้าไม่ต้องปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ใส่จมูกข้าวสาลีผสมใส่ลงไป เติมน้ำผึ้งแท้ลงไป ปั่นให้ละเอียดจนเนื้อเนียนนุ่มพร้อมใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างมีคุณภาพ
วิธีใช้ ก่อนอื่นให้ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องใช้สบู่ใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วซับผิวหน้าให้แห้ง รอจนใบหน้าแห้งดีแล้วนำส่วนผสมสมุนไพรสดพอกหน้า พอกตัว หัวไชเท้า ที่ได้มาพอกลงบนใบหน้า เว้นรอบดวงตา เว้นรอบริมฝีปาก พอกให้ทั่วใบหน้าพอกให้ทั่วใบหน้าจากนั้นให้พอกไปที่คาง ลำคอโดยรอบ รวมทั้งช่วงไหล่ แขน และใต้ลำคอลงมาถึงทรวงอกด้วย แล้วปล่อยทึ้งไว้เฉย ๆ ให้ตัวยาสมุนไพรแทรกซึมเข้าไปในรูขุมขน แทรกเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำหน้าที่บำรุงรักษาผิวพรรณได้อย่างเต็มที่ เป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับผิวหน้าให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้เอง ทุกครั้งที่ซับผิวหน้านั้นมีวิธีซับนิดหน่อยว่าให้ซับหน้าเบา ๆ ไม่ใช่เช็ดถูลากเอาผ้าขนหนูดึงให้แก้มหย่อนยานลงมา คางร่นลงมา หากทำหลาย ๆ ครั้ง จะเกิดผลของอาการผิวหนังหย่อนลงมาอย่างน่าเกลียดในที่สุด นี่เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสมุนไพรสดจากธรรมชาติพอกหน้า พอกตัว หัวไชเท้า ออกฤทธิ์ขจัดฝ้าได้ดี เมื่อเกิดฝ้าที่อยู่บนผิวหน้าหรือเพิ่งเริ่มเป็นระยะหนึ่ง สามารถรักษาได้อย่างดีเยี่ยม จุดด่างดำ หมองคล้ำที่เกิดขึ้นนั้นไม่ต้องวิตกกันอีกต่อไปแล้ว เพราะสามารถรักษาได้ด้วยครีมสมุนไพรสดจากธรรมชาติหัวไชเท้า
ข้อควรระวัง
หากทำตามสูตร
รักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติด้านบนแล้วรู้สึกว่าแสบหน้า หน้าแดง ควรหยุดทำน่ะครับ เพราะตามที่ได้บอกไว้ว่าสภาพผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ดังนั้น วิธีเดียวกัน บางคนอาจจะได้ผล บางคนอาจจะไม่ได้ผล ถ้าใครที่คิดว่าตัวเองแพ้หัวไชเท้าก็ลองมองหา
สมุนไพรรักษาฝ้าวิธีอื่นๆ ลองดูน่ะครับ
หากใครที่นำสูตร
หัวไชเท้ารักษาฝ้าไปใช้แล้วได้ผลก็อย่าลืมมด Like กด Share ให้กับทีมงานด้วยน่ะครับ จะได้มีกำลังใจ รวบรวมข้อมูลดีๆ มานำเสนอเพื่อนๆ อีก หากใครที่ต้องการทราบข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ
วิธีรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ สามารถกด Like ตัว Facebook Fan Page ของเราได้น่ะครับ หรืออีกทางก็ Twitter น่ะครับ